วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พรบ.คอมพิวเตอร์ใหม่

พรบ.คอมพิวเตอร์ใหม่



ไอซีที จัดประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ ว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย

ร่างกฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้

ประเด็นที่ 1 เพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ”

มาตรา 4 เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” หมายความว่า “ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น”


ในกฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ “ผู้ให้บริการ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น “ตัวกลาง” ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น

สำหรับร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ “ผู้ให้บริการ” อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

ตามร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ 1.5 เท่า ของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป

ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี

สิ่งใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา 16 ที่ เพิ่มมาว่า “ผู้ใดสำเนา ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า “แคช” (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว


ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด (กุโลลิค่อนนะ ไอฉัด)

ในมาตรา 25 “ผู้ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือเยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ “การครอบครอง” อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม


ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา

มาตรา 24 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน

เนื้อความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


หากพิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ “รัฐบาล” ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่จำเป็น

ประเด็นที่ 5 ดูหมิ่น ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

มาตรา 26 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ผ่านมามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อหาการ ดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้น


ข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ประเด็นที่ 6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ

มาตรา 21 ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากที่กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่าการส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท มาเป็นจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้


ประเด็นที่ 7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี

มาตรา 23 ผู้ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น่าสังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำหรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง


ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ

สำหรับกรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท (เพิ่มขึ้น 4 เท่า)

ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

ร่างกฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า “สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “สพธอ.” และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “ETDA” เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที

หน่วยงานนี้เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการประกาศผ่าน “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554″ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554

ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับที่กำลังร่างนี้

นอกจากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การ มหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา


ประเด็นที่ 10 ตั้งคณะกรรมการ สั.ดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน

ร่างกฎหมายนี้เพิ่มกลไก “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ประกอบด้วย

– นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ

– รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ

– รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี

คณะกรรมการชุดนี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน


คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง “ปฏิบัติการอื่นใด” เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

Credit >http://www.netcafeclub.net<
         >http://my.dek-d.com/69-----69/blog/?blog_id=10176979

ข้อสอบ

มาโหลดได้ ข้อสอบเก่า 7 วิชาสามัญพร้อมเฉลย

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2555 (สอบ ม.ค. 2555)
- คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่           
- ฟิสิกส์ + เฉลย คลิกที่นี่          
- เคมี + เฉลย คลิกที่นี่           
- ชีววิทยา คลิกที่นี่           
- ภาษาไทย คลิกที่นี่           
- สังคมศึกษา คลิกที่นี่           
- ภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2556 (สอบ ม.ค. 2556)
- คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ + เฉลย 
ตอนที่ 1 คลิกที่นี่ ตอนที่ 2 คลิกที่นี่           
- ฟิสิกส์ + เฉลย คลิกที่นี่           
- เคมี คลิกที่นี่           
- ชีววิทยา คลิกที่นี่            
- ภาษาไทย คลิกที่นี่           
- สังคมศึกษา คลิกที่นี่           
- ภาษาอังกฤษ + เฉลย คลิกที่นี่

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2557 (สอบ ม.ค. 2557)
- คณิตศาสตร์ คลิกที่นี่ + เฉลย คลิกที่นี่           
- ฟิสิกส์ คลิกที่นี่           
- เคมี + เฉลย คลิกที่นี่           
- ชีววิทยา คลิกที่นี่           
- สังคมศึกษา คลิกที่นี่           
- ภาษาอังกฤษ คลิกที่นี่

ขอขอบคุณ ที่มา ไฟล์ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ จากแหล่งต่างๆ ดังนี้
skyDrive รวบรวมไฟล์ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ โดย เอกพล อนันตภูมิ          
Facebook : คลินิกการศึกษา ::: พาราเซตามอล+          
Facebook : SUCKSEED สำหรับคนที่มีฝันจะเป็นหมอ และก้าวไปพร้อมๆกัน          
Facebook : คณิตมัธยมปลาย , ภาษาอังกฤษมัธยมปลาย , เคมีมัธยมปลาย , ฟิสิกส์มัธยมปลาย ,  ชีววิทยามัธยมปลาย          
Enconcept E-Academy          
อาจารย์ บุญช่วย ภัทรเลิศศิริ          
อาจารย์ สนธยา เสนามนตรี          
- อาจารย์ ดร.ธนพงษ์ กรีธาดำรงเดช หรือ อ.บิ๊ก A.BIG CENTER           
อาจารย์ Rath Limprasittiporn Website : http://rathcenter.com/          
อาจารย์ Sila Sookrasamee คุณครูวิชาคณิตศาสตร์          
ชูเกียติ ตันติวงศ์ – ชูเส็ง ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย          
ทุกคน ที่ร่วมกันแชร์ไฟล์ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ
ที่มา https://www.facebook.com/admissions2558guru
        : http://www.admission.in.th/

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ค่านิยม 12 ประการ


ค่านิยม 12 ประการ


ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ตามนโยบายของ คสช.

1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม
3. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 
4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม
5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 
7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
8. มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
9. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และพร้อมที่จะขยายกิจการเมื่อมีความพร้อม เมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี
11. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออ านาจฝ่ายต่ า หรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา
12. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

ที่มา : http://www.mnre.go.th/ewt_news.php?nid=3230

ใบงานที่4 พรบ.คอมพิวเตอร์


พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

เนื่องจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้การประกาศใช้ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2550 ในด้านของการศึกษา โดยเฉพาะการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ในฐานะผู้ออกแบบและพัฒนานั้นจะต้องคำนึงถึงความถูกต้องเป็นสำคัญ จึงจำเป็นต้องรู้กฎหมาย และมีความรอบคอบในการทำงานและระวังให้มากขึ้น

1. เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่อนุญาตให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเขา ถ้าเราแอบเข้าไป … จำคุก 6 เดือน

2. เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่น แล้วเผยแพร่ให้คนอื่นรู้   จำคุกไม่เกินปี

3. แอบเข้าไปล้วงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บเอาไว้ในระบบคอมพิวเตอร์   จำคุกไม่เกิน 2 ปี

4. ข้อมูลที่ถูกส่งหากันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แล้วไปดักจับข้อมูลของเขา จำคุกไม่เกิน 3 ปี

5. ข้อมูลที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ถ้ามีไปตัดต่อ ดัดแปลง … จำคุกไม่เกิน 5 ปี (ดังนั้นอย่าไปแก้ไขงานเอกสารที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์คนอื่น)

6. ปล่อย Multiware เช่น virus, Trojan, worm เข้าระบบคอมพิวเตอร์คนอื่นแล้วระบบเข้าเสียหาย … จำคุกไม่เกิน 5 ปี

7. ถ้าเราทำผิดข้อ 5. กับ ข้อ 6. และสร้างความเสียหายใหญ่โต เช่น เข้าไปดัดแปลงแก้ไข ทำลาย ก่อกวน ระบบสาธารณูปโภค หรือระบบจราจร ที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ……..จำคุกสิบปีขึ้น

8. ถ้ารบกวนโดยการส่ง email โฆษณาต่างๆไปสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น  … ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

9. ถ้าเราสร้างโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์เพื่อเพื่อสนับสนุนผู้กระทำความผิด … จำคุกไม่เกินปีนึง

10. ส่งภาพโป๊ , ประเด็นที่ไม่มีมูลความจริง, ท้าทายอำนาจรัฐ … จำคุกไม่เกิน 5 ป

11. เจ้าของเว็บไซด์โหรือเครือข่ายที่ยอมให้เกิดข้อ 10. โดนลงโทษด้วย … จำคุกไม่เกิน 5 ปี

12. ชอบเอารูปคนอื่นมาตัดต่อ … จำคุกไม่เกิน 3 ปี


คลิปเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์


CR: http://www.site.rmutt.ac.th/cuemedia/act-com2550/conclude-act50/
https://www.youtube.com/watch?v=OdMqYTnBmX8

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 3 เรื่อง ประวัติ Ronnie O'sullivan

World Snooker – ประวัติ รอนนี โอซุลลิแวน



ประวัติ รอนนี โอซุลลิแวน ( Ronnie o’sullivan )

เกิด 5 ธันวาคม ค.ศ. 1975 (37 ปี)

เวิร์ดสลี่ เวสต์มิดแลนด์ อังกฤษ

ชาว อังกฤษ

ฉายา The Rocket

อันดับสูงสุด 1

อันดับในปัจจุบัน 15

เงินรางวัล 6,056,010 ปอนด์

เบรกสูงสุด 147 (11 ครั้ง)

เซนจูรีเบรก 678

เวิลด์แชมเปียน 2001, 2004, 2008, 2012, 2013


รอนนี่ โอซุลลิแวน เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี ค.ศ.1975 ชาวอังกฤษ มีฉายาว่า “The Rocket” เป็นนักสนุกเกอร์พรสวรรค์สูง เริ่มเล่นสนุกเกอร์อายุเพียง 16 ปี ด้วยพรสวรรค์ที่แฝงอยู่ในตัว และด้วยบุคลิกที่ก้าวร้าว(ในประเทศไทย รอนนี่มีฉายาว่า “เด็กนรก”) มีแนวการเล่นที่รวดเร็วและแม่นยำเร้าใจผู้ชม ปัจจุบันเป็นมือวางอันดับ 1 ของโลก





รูปแบบการเล่น

รอนนี่มีรูปแบบการเล่นที่เร้าร้อน โดยในช่วงวัยรุ่นนั้น หากลูกไหนที่เขามีโอกาสแทง เขาก็จะสู้ตลอด ซึ่งด้วยพรสวรรค์ของรอนนี่นั้น ชอบในเรื่องของความแม่นยำในการแทงลูกไกล นอกจากจะแทงได้แม่นยำแล้ว รอนนี่ยังเล่นด้วยความรวดเร็ว การเล่นแบบกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ทำให้เขาเป็นที่นิยมของผู้ชม หลายครั้งที่ห้องแข่งขันจะกึกก้องไปด้วยเสียงเชียร์ “Come On Ronnie” ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับคู่ต่อสู้ที่อ่อนประสบการณ์หรือมีสมาธิไม่ดีพอได้ด้วยเหมือนกัน รอนนี่เล่นได้ทั้งมือซ้ายละมือขวา





ประวัติการแข่งขัน

รอนนี่เริ่มเล่นอาชีพในปี ค.ศ.1992 และสามารถคว้าแชมป์รายการ UK Championship ได้ในปี ค.ศ.1993 โดยการเอาชนะมัจจุราชผมทอง สตีเฟ่น เฮนดรี้ นักสนุกเกอร์มือวางอันดับ 1 ของโลกในขณะนั้น ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 358 วัน ทำให้เขาเริ่มเป็นที่จับตามองในวงการสนุกเกอร์อาชีพ และเมื่อจบฤดูกาล คะแนนอันดับโลกของเขาในปีนั้นก็ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก

ในฤดูกาลแข่งขันปี 1995/96 รอนนี่คว้าแชมป์รายการ The Master ซึ่งเป็นรายการชิงเงินรางวัลที่ใหญ่ที่สุดโดยการเอาชนะ จอห์น ฮิกกินส์ (John Higgins) ไปได้ 9-3 เฟรม ในรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ รอนนี่ถูกสมาคมสนุกเกอร์อาชีพโลกปรับเงิน 10,000 ปอนด์ เนื่องจากถูก อแลงค์ โรบิดูซ์ (Alain Robidoux) กล่าวหาว่ารอนนี่นั้นใช้วิธีการเล่นที่ไม่สุภาพกับเขา โดยในการแข่งขันนัดนั้น รอนนี่ผลัดกันใช้มือขวาและมือซ้ายในการแทงลูก ซึ่งในเวลาต่อมา รอนนี่ต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามในรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ เขาสามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ โดยในรอบรองชนะเลิศ เขาพ่ายแพ้ให้กับ ปีเตอร์ เอ็บดอน (Peter Ebdon) ไป 14-16 เฟรม จบท้ายฤดูกาลนั้นด้วยอันดับที่ 8 ของโลก

ในฤดูกาลการแข่งขันปี 1996/97 รอนนี่เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์รายการ Asian Classic โดยเอาชนะไบรอัน มอร์แกน (Brian Morgan) ไปแบบหวุดหวิด 9-8 เฟรม และสามารถคว้าแชมป์รายการที่ 2 ของฤดูกาลนี้คือรายการ German Open โดยเอาชนะ อแลงค์ โลบิดูซ์ (Alain Robidoux) ไปได้ 9-7 เฟรม และในการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ เขาสามารถทำ Maximum Break 147 แต้ม ในการแข่งขันรอบแรกกับ มิกค์ ไพรซ์ (Mick Price) ซึ่งเป็นการทำ Maximum Break ที่เร็วที่สุดในโลก คือใช้เวลาทั้งหมด 5 นาทีกับอีก 20 วินาที





ในฤดูกาลแข่งขันปี 2000/01 เป็นฤดูกาลที่รอนนี่รอคอย เมื่อเขาสามารถคว้ารายการชิงแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นหนแรก โดยเขาเอาชนะ จอห์น ฮิกกินส์ (John Higgins) ไปได้ 18-14 เฟรม และจบฤดูกาลปีนี้ไปด้วยอันดับที่ 2 ของโลก และในฤดูกาลปี 2002/03 เขาก็สามารถก้าวไปถึงมือวางอันดับ 1 ของโลกได้สำเร็จ โดยเขาได้ครองตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งของโลกทั้งสิ้น 4 ฤดูกาล คือฤดูกาลปี 2002/03,2004/05,2005/06 และในฤดูกาล 2008/09

รอนนี่เริ่มต้นฤดูกาลแข่งขันปี 2008/09 ได้อย่างน่าประทับใจเมื่อเขาสามารถคว้าแชมป์รายการ Northern Ireland Trophy ซึ่งเป็นรายการสะสมแรกของฤดูกาลแข่งขัน โดยเอาชนะ เดฟ ฮาโรลด์ (Dave Harold) ไปได้ 9-3 เฟรม และในรายการต่อมาคือรายการ Shanghai Masters รอนนี่ได้ตำแหน่งรองแชมป์ไป โดยพ่ายแพ้ให้กับนักสนุกเกอร์ดาวรุ่ง ริคกี้ วอลเดน (Ricky Walden) ไปอย่างเฉียดฉิว 8-10 เฟรม ทำให้เขามีคะแนนสะสมเพียงพอที่จะเป็นมือวางอันดับที่ 1 ของโลกต่อไปอีกในฤดูกาลแข่งขันฤดูกาลถัดไป แม้ว่าในรายการชิงแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ เขาจะทำผลงานได้แค่เพียงรอบ 2 หรือรอบ 16 คนสุดท้ายเท่านั้น โดยเขาพ่ายแพ้ให้กับ มาร์ค อัลเลน (Mark Allen) ไป 11-13 เฟรม





ผลงาน


รายการสะสมคะแนน

รายการชิงแชมป์โลก 5 สมัย ในปี ค.ศ.2001 / ค.ศ.2004 / ค.ศ.2008 / ค.ศ.2012 / ค.ศ.2013

รายการ Uk Championship 4 สมัยในปี ค.ศ.1993 / ค.ศ.1997 / ค.ศ.2001 / ค.ศ.2007

รายการ British Open ปี ค.ศ.1994

รายการ German Open ปี ค.ศ.1995

รายการ China Open 3 สมัยในปี ค.ศ.1996 / ค.ศ.1999 / ค.ศ.2000

รายการ European Open ปี ค.ศ.2003

รายการ Irish Masters 2 สมัยในปี ค.ศ.2003 และปี ค.ศ.2005

รายการ Welsh Open 2 สมัยในปี ค.ศ.2004 และในปี ค.ศ.2005

รายการ Grand Prix ปี ค.ศ.2004

รายการ Northern Ireland Trophy ปี ค.ศ.2008

รายการชิงเงินรางวัล

รายการ The Masters 4 สมัยในปี ค.ศ.1995, 2005, 2007, 2009

รายการ Scottish Masters 3 สมัยในปี ค.ศ.1998, 2000, 2002

รายการ Irish Masters 2 สมัยในปี ค.ศ.2001, 2007

รายการ Premier League 8 สมัยในปี ค.ศ.1997, 2001, 2002, 2005 (04/05), 2005 (05/06), 2006, 2007, 2008

รายการ Benson and Hedges Championship ปี ค.ศ.1993

รายการ Nescafe Extra Challenge ปี ค.ศ.1993

รายการ Liverpool Victoria Charity Challenge ปี ค.ศ.1996

รายการ Riley Superstar International ปี ค.ศ.1997

รายการ Champions Cup ปี ค.ศ.2000

รายการ Nations Cup ร่วมกับทีมชาติอังกฤษ ปี ค.ศ. 2000




cr: http://www.maggiecampbelldesigns.com/










คลิปวีดีโอ 
https://youtu.be/Exu56C4iiiw


Cr : http://beta.soccersuck.com/boards/topic/980120
     : https://youtu.be/Exu56C4iiiw

ใบงานที่2 ความรู้เกี่ยวกับบล็อกเกอร์


ใบงานที่2 ความรู้เกี่ยวกับบล็อกเกอร์


Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 2 คำ บ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog) โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) ซึ่งรวมกันหมายถึง “ปูมเว็บ” หรือ บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง หรือ ถ้าจะขยายความมากไปกว่านั้น Blog ก็จะหมายถึง การบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่ด้านบนสุด ส่วนเรื่องเก่าก็จะอยู่ด้านล่างสุด ซึ่งจะมีวันที่-เวลาเขียนกำกับไว้ เป็นที่นิยมกันในหมู่มาก


มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นแค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลาย และครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างไดอารี่ จนถึงการบันทึกบทความเฉพาะด้านต่างๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องธุรกิจ เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อก เป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้นๆ มีการสื่อสารกับผู้อ่านผ่านทางระบบ comment และมีการถ่ายทอดอย่างเป็นกันเอง โดยบล็อกบางแห่งจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็เขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะเช่นเพื่อน หรือคนในครอบครัว Blog ให้ อิสระในการเขียนเรื่องอะไรก็ได้ตามแต่ใจผู้เขียน โดยจะสะท้อนบุคลิกของผู้เขียนออกมา ถ้าคนไหนเป็นคนตลก ก็จะเขียนออกมาได้สนุกสนาน น่าอ่าน, ใครชอบเลี้ยงสุนัขจะเล่าเรื่องสุนัขของตัวเอง เป็นต้น Blog มีทั้งบริการแบบเสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการให้บริการ ซึ่งมักจะติดตั้ง Tool ให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากนัก



Blogger สามารถแปลได้ 2 ความหมายคือ



1. คนเขียนบล็อก หรือเจ้าของบล็อกนั่นเอง
2. ระบบ update blog หรือ blog engine ที่เรียกว่า Blogger.com นั่นเอง



ซึ่งสามารถประเภทจำแนกได้คร่าวๆ ดังนี้



1. บล็อกเกอร์อิสระ นักเขียนบล็อกประเภทนี้จะเขียนบล็อกของตัวเอง โดยจำกัดบล็อกของตัวเองไว้ว่าเป็นบล็อกส่วนตัว สำหรับเขียนเรื่องราวส่วนตัว หรือความคิดส่วนตัว โดยไม่ได้นำเสนอบล็อกของตัวเองเพื่อการอย่างอื่น นอกจากการชมเพื่อความบันเทิง, ความสนุกในหมู่เพื่อนฝูง



2. บล็อกเกอร์แนวธุรกิจ => รับทำบล๊อกเกอร์
นักเขียนบล็อกกลุ่มนี้ มักจะเขียนเนื้อหาของ blog ที่เป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการของตน คือใช้ blog เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดนั่นเอง



3. บล็อกเกอร์แบบองค์กร บล็อกเกอร์กลุ่มนี้ จะใช้ blog เพื่อเป็นการสื่อสารภายใน ไม่ว่าจะเป็นภายในองค์กร เช่นภายในบริษัท หรือใช้สื่อสารภายในทีมฟุตบอล หรือสโมสรต่างๆ
4. บล็อกเกอร์มืออาชีพ บล็อกเกอร์ที่เขียนบล็อกอย่างเดียว โดยมีรายได้จากบล็อกเพื่อยังชีพ บางคนได้รับค่าจ้างเป็นเงินเดือน ให้เขียนบล็อกอย่างเดียว บางคนเขียนบล็อกของตัวเอง โดยได้รับค่าโฆษณาต่างๆ จากผู้สนับสนุน กลุ่มนี้อาจเป็นบริษัทที่เขียนบล็อกโดยเฉพาะ ที่เห็นชัดเจนก็คือ blogger ชาวต่างประเทศ เพราะเขียนให้คนอ่านมากๆ แล้วใช้โฆษณาของ Google Adsense มาติดไว้ บางคนมีก็รายได้จากการเป็น presenter ให้สินค้าต่างๆ


เริ่มต้นทำ Blog ได้อย่างไร?

เราสามารถที่จะทำ Blog ฟรีได้  โดยขอใช้บริการจากเว็บไซต์ผู้ให้บริการ Blog ต่างๆ โดยต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อน แล้วผู้ให้บริการจะแนะนำวิธีการใช้งานให้เราเองค่ะ
ผู้ให้บริการ Blog ของไทยที่เป็นที่นิยมได้แก่
  • BlogGang.com จาก Pantip
    http://www.bloggang.com/register.html
  • Blogger.com จาก Google
    http://www.blogger.com  (อ่านคำแนะนำได้ที่ blog นี้ค่ะ http://2talkbig.blogspot.com)
  • WordPress.com จาก WordPress
    http://www.wordpress.com

เครดิต : http://makewebblogs.blogspot.com/2013/01/blogger.html
            : http://www.enjoyday.net/what-is-blog.html
            : http://themartellexperience.com/2010/09/02/top-10-new-brunswick-bloggers-worth-checking-out/

ใบงานที่1แบบสำรวจตัวเอง


ใบงานที่1แบบสำรวจตัวเอง

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

My First Blogger

My First Blogger

Blog นี้เป็นส่วยหนึ่งของรายวิชา สารสนเทศ ง.33101 ม.6

โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่


ชื่อ: นายทักษิณ  ดำรงค์

ชื่อเล่น: ฟลุค

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่: 6/11   เลขที่ 18

วัน/เดือน/ปี เกิด: 12 กรกฎาคม 2540

Facebook: Tuksin Fluke Dumrong

Gmail: fluke44115@gmail.com

กรุ๊ปเลือด โอ


รูปภาพที่ชอบ

cr. Napat Meksuwan


เพื่อนของฉัน



ทีมฟุตบอลที่ฉันชอบ


วงดนตรีที่ฉันชอบ



เครดิตรูป google.co.th